Daylight Saving Time: DST
ทู้กกกกคนคะ ตอนนี้ Thailand and US. เรามีเวลาต่างกัน 12 ชม. (Rochester ช้ากว่าไทย 12 ชม.) เป๊ะๆๆๆ แทนจากเดิมที่จูน เคยบอกว่า 11ชม. แล้วนะคะ ปรับเวลากันใหม่น๊า อย่าฉับฉนนนน.. คงมีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับ " Daylight Saving Time: DST " หรือ Summer Time กันบ้าง ก็คือการปรับเวลาเพื่อให้เรามีช่วงเวลากลางวัน (day time)ให้ได้ใช้สอยกันมากขึ้น เพราะช่วง summer ประเทศเหล่านี้จะมี day time นานกว่า night time ส่วน winter ก็ตรงข้ามกัน.. ก็มีประกาศใช้กันเป็นกฏหมายทีเดียว ประมาณ 70 ประเทศทั่วโลกที่ใช้ แต่ประเทศผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมโลกเพียงประเทศเดียวที่ไม่ใช้คือประเทศญี่ปุ่น สำหรับประโยชน์และจุดประสงค์ก็มีหลากหลาย แต่จูนขอยกเป็นบางตัวอย่างนะคะ อย่างนึงเพื่อความปลอดภัยค่ะ เช่นเวลามาทำงาน เลิกงาน ในบางครั้งจะได้ไม่มืดจนเกินไปซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ในบางประเทศก็ยังสามารถใช้ประโยชน์จาก DST ในการอนุรักษ์และผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ริเริ่มจุดประกายแนวความคิดนี้เป็นคนแรกของโลก ก็คือ Benjamin Franklin ชาวอเมริกัน ในปี คศ.1784 ระหว่างที่ Franklin เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสในฐานะผู้ตรวจการค่ะ ซึ่งมีความกล่าวสำหรับเรื่องนี้ว่า
Learn the history of daylight saving, from Benjamin Franklin to the present...
Just as sunflowers turn their heads to catch every sunbeam, so too have we discovered a simple way to get more from our sun.
We've learned to save energy and enjoy sunny summer evenings by switching our clocks an hour forward in the summer.
อย่างไรก็ตามประเทศแรกที่มีการปรับนาฬิกาจริงๆ จังๆ เพื่อ Daylight Saving Time ก็คือประเทศอังกฤษค่ะ ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา มีการประกาศเป็นกฏหมายการปรับเวลาเพื่อ Daylight Saving Time อย่างเป็นทางการ ในปี 1986 โดย DST
- เริ่มต้นตั้งแต่ 2.00 AM ในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน โดยเป็นที่รู้กันว่า เวลาจะถูกปรับในวันดังกล่าว ล่วงหน้าไป 1 ชม. จาก 1.59 AM เป็น 3.00 AM = Spring forward
- และสิ้นสุดที่ 2.00 AM ในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม (วันนี้ไงคะ)เวลาก็จะถูกปรับถอยหลัง 1 ชม. จาก 1.59 AM ไปสู่ 1.00 AM อีกครั้ง = Fall (Autumn) back
โดย DST ดังกล่าวนี้ ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ตามตำแหน่งที่ตั้งละติจูดของประเทศต่างๆ
ที่มา : http://moat.nlanr.net/International/images/collab_world_map.gif
ประเทศไทยเราจะไม่มีปัญหานี้มากนัก เนื่องจากที่ตั้งอยู่ใกล้ตำแหน่ง equator (เส้นศูนย์สูตร) โดยประเทศที่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรออกไป และใกล้ North Pole หรือ South Pole มากกว่า จะได้รับอิทธิพลของ Day-Night Time มากกว่า ถ้าทุกคนดูจากแผนที่นี่ ก็จะเข้าใจว่าทำไม อเมริกาจึงได้รับอิทธิพลมากกว่าบ้านเรา และด้วยตำแหน่งที่ห่างกันครึ่งโลกพอดี จึงทำให้เวลาต่างกัน 12 ชม.ค่ะ (ถ้าแผนที่ไม่ชัดให้ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปดูภาพขยายที่เวบได้เลยนะคะ) เอาล่ะ จูน ก็ขอ ..แบ่งปัน.. เฉพาะประเทศใกล้ตัวอเมริกาเท่านี้ดีกว่าค่ะ
นอกจากนี้ อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือเรื่องของ spelling & grammar โดยที่ถูกต้องเป็นทางการคือ "Daylight Saving Time" ไม่ใช่ Daylight Savings Time คือไม่มี s ตามหลัง saving เพราะ saving ในที่นี้เป็นคำคุณศัพท์ ขยายคำนาม Time เนื่องจากมีการพูดและใช้ผิดกันเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามมีคำกล่าวว่า no daylight is actually saved คือเป็นไปไม่ได้ที่เราจะสามารถเก็บเวลานั้นได้จริง จึงน่าจะใช้ Daylight Shifting Time มากกว่า แต่ก็ยังไม่มีการตัดสินออกมาอย่างเป็นทางการแน่นอนค่ะ "Daylight Saving Time" จึงยังเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากกว่า
ค่ะ นี่ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่อาจไม่เป็นที่คุ้นเคยนักสำหรับบ้านเรา จูนก็ได้พยายามเรียนรู้เพื่อจะมา.แบ่งปัน. เปิดโลกทัศน์ให้กับทุกคน เท่าที่จูนจะค้นหาและเข้าใจได้ใน 2 ชม.นี้ ก็พึ่งเรียนรู้ใหม่สดตอนนี้ ที่นี่ ก็เรียนรู้และมีความสุขไปด้วยกันนะคะ อาจมีเพื่อนๆ พี่ๆ บางคนที่เข้าใจลึกซึ้งมากกว่าจูน ถ้ามีตรงไหนที่จูนอาจยังเข้าใจไม่ถูก ก็สามารถช่วยกันแนะนำ แบ่งปัน แก้ไข กันมาได้นะคะ เพื่อทุกคนจะได้รับประโยชน์กันอย่างเต็มที่ที่สุดค่ะ ..
สำหรับเพื่อนใหม่ ที่ลิงค์หน้านี้จากเวบฟอนท์ ยินดีต้อนรับนะคะ ดีใจและขอบคุณที่เปิดใจ.แบ่งปัน.กับ shinyjune ค่ะ
ขอขอบคุณ
http://webexhibits.org/daylightsaving/ สำหรับข้อมูลคุณภาพ
http://moat.nlanr.net/International/images/collab_world_map.gif สำหรับ world map เพื่อการแบ่งปันและเรียนรู้ให้แก่สมาชิิก 'บ้าน shinyjune' และเหมือนเดิม ภาพสวยๆจาก Google ค่ะ
..วันนี้เลยได้ตื่นสายได้เวลาเพิ่มมาอีก 1 ชม. เหมือนนั่ง Time Machine ของโดเรมอนเลย ชอบจัง ชอบจัง อิอิ .. (@^_^@)