October 30, 2005

เรื่องแจ่ม แจ่ม จากละครตุรกี !!

เรื่องมีอยู่ว่า เย็นวันพฤหัสบดี อิอิ นั่งกินข้าวกะเจ๊ไอ เธอเปิดละครตุรกีค่ะ อ่ะนะ..โต๊ะกินข้าวเดียวกัน จูนก็เลยดูซะหน่อย (กว่าเพื่อนจะส่งอะไรมาให้ดู ก็รอแล้วรออีก เลยดูของตุรกีดีกว่า)แต่ขอบอก... ว่าไม่ได้เป็นละคร วี๊ดๆๆ ตีกันเหมือนบ้านเรานะคะ แต่เป็นละครช่อง educated program ค่ะ ก็คือเพื่อจุดประกายความคิดอะไรดีๆ ให้กับคนในประเทศ ดูซีคะ ตรงข้ามกับบ้านเราสิ้นเชิงเลย เค้าทำละครเพื่อพัฒนาคุณภาพประชากร แต่ละครบ้านเราดูแล้วประชากร จุด จุด จุด?? ต่อค่ะ.. ฟังอ่ะไม่รู้เรื่องหรอก เพราะเป็นภาษาตุรกี เจ๊ไอก็เลยแปลให้ scence by scence ก็อย่าดูถูกไป ดูแล้วน่าติดตามนะ จูนปวดท้องฉี่ยังขอดูให้จบก่อนเลยค่ะ!! เรื่องมันยาวเกือบ ชม. เล่าย่อๆ ก็ลำบาก ประมาณว่าคุณหมอ ภรรยาถูกก่อการร้ายชายแดนฆ่าตาย แล้วต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเองว่าจะจมกองทุกข์ หรือจะยังเอาความรู้ที่ตัวเองมีอยู่ไปรักษาคนอื่นให้เป็นประโยชน์ต่อ บ้าบอ..อยู่ปีกว่ากับการต่อสู้ว่าจะใจดำไม่รักษาหรือว่าทำดีช่วยคน ต่อไป (ไม่อธิบายรายละเอียดนะคะ มันซับซ้อนมาก เดี๋ยวปวดหัว)มีคนมาตามให้ไปรักษาคนไข้ในชนบท ตรงแถวชายแดนที่ภรรยาถูกฆ่า ก็โวยวายว่าไปทำไม รักษาให้คนแถวนั้นไปแฟนก็ไม่ฟื้นขึ้นมา แล้วทำไมต้องไปช่วยพวกคนที่อาจจะเป็นคนฆ่าภรรยาตัวเองด้วย ต่อสู้กับความคิดที่สับสนของตัวเองอยู่ปีกว่า สุดท้ายยอมไปรักษาหญิงชราแถวนั้นคนนึง พบว่าหญิงชราคนนั้นเลี้ยงเด็กอ่อนซึ่งมีสัญลักษณ์บางอย่างห้อยอยู่เหนือเปล แล้วคุณหมอก็จำได้ว่าเนี่ยของแฟนเค้า ถามไปมาหญิงชราบอกว่าได้ช่วยชีวิตผู้หญิงคนนี้ไว้ปีก่อน ช่วยไปช่วยมาไม่กี่เดือนคลอดลูก (อย่าคิดเลยเถิดว่าท้องกับใคร กี่เดือนคลอดเหมือนละครบ้านเรานะคะ ละครชาวมุสลิมเค้า..สะอาดกว่าเยอะค่ะ) อืมม สุดท้ายคุณหมอเลยได้ลูกตัวเองกลับไปเลี้ยง ชีวิตก็เปลี่ยนไป ค้นพบความสุขอีกครั้ง ก็คือ..ถ้าเค้าไม่เอาชนะใจตัวเอง ผ่านบททดสอบนี้ ไม่ยอมมารักษา เค้าก็ไม่ได้เจอลูกเค้า ดูซีคะ ไม่ได้ตั้งใจจะดูอะไรมากมายเลยนะเนี่ย(แค่ไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำเลยแค่นั้นเอง 555) แต่สุดท้าย สาระที่จูนจับได้จากละครโดยบังเอิญก็คือ.. คนเราต้องมีความหวัง "ทุกครั้งที่ชีวิตเจอกับความทุกข์แสนสาหัส..มันคือบทเรียนที่ข้างบนส่งมาทดสอบความเป็นมนุษย์ของเรา" และด้วยความหวังกับความตั้งใจในสิ่งที่ดีๆ วันนึงสิ่งที่ดีงามจะตอบกลับมา.. และถ้าคุณสู้ได้ และแกร่งพอ..จนผ่านไปถึงวันนั้น นั่นหมายความว่า..คุณผ่าน..บททดสอบความเป็นมนุษย์..บทนั้นแล้ว ..จ้ะ..ถ้าจะมีแฟนพันธุ์แท้สักคนสังเกต คงจะเห็นใช่มั้ยคะว่ามันมีอะไรบางอย่าง ที่บังเอิญคล้ายกับเรื่องราวที่จูนมีความสุขที่ได้ถ่ายทอดผ่านบ้าน shinyjune นี้มาตลอด.. จูนเองก็เป็นคนธรรมดาคนนึงที่พึ่งก้าวเข้ามาฝึกฝนในบทเรียนนี้โดยไม่ตั้งใจ อาจยังสอบผ่านได้แค่ชั้นอนุบาล ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ผิดบ้าง ถูกบ้าง พลาดบ้าง หัวเราะบ้าง มีน้ำตาบ้าง ค่ะมันไม่ง่ายเลย และแต่ละเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาให้ฝึกฝนสำหรับจูน ก็ยากง่ายต่างกัน ก็เพราะมันเป็นการ ..ฝึกฝนที่จิตใจ..ไม่ใช่ร่างกายไงคะ เราต้องเอาชนะตัวเอง ซึ่งยากกว่าการเอาชนะคนอื่นหลายเท่า แต่ถ้าเราทำได้มันก็เป็น "ความชนะที่ละเอียดอ่อน" แท้จริงและมั่นคงกว่าการเอาชนะคนอื่น ซึ่งเป็นการ ..เผาไหม้และทำร้ายจิตใจตนเอง..โดยไม่รู้ตัว และจูนรับรองค่ะว่า ผลผลิตที่ได้ หาซื้อด้วยเงินทองจากไหนไม่ได้ และผลผลิตจากการฝึกฝนเหล่านี้ก็ไม่มีวันหนีเราไปไหน เพราะ..คือใจที่สงบและความสุขที่แท้จริง เพียงแต่บางครั้ง..กว่าที่เราจะได้ซาบซึ้งกับความสุขอะไรสักอย่าง"อย่างแท้จริง" เราอาจต้องผ่านบทเรียนหนักๆ ในชีวิตมากมาย เพียงเพื่อจะยืนยันว่าเราแกร่งพอแล้วที่จะเป็นมนุษย์.ที่คู่ควรและควรค่าพอ.ที่จะได้รับ ความสุขนั้น.. แล้วคุณล่ะคะ แกร่งพอมั้ย ไม่ลอง แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ ว่าจริงหรือเปล่า จูนเอง (@^_^@)/

7 Comments:

At Sun Oct 30, 02:16:00 PM 2005 , Anonymous Anonymous said...

Yeah, I m the first.
this story is so cool.

 
At Mon Oct 31, 12:30:00 AM 2005 , Blogger ShiNy JuNe said...

ฮ้าววววว วันนี้ตื่นสายยย สบายจังเยย.. อิอิ สวัสดีค่าทู้กกกกกคน เที่ยงสวัสดิ์อเมริกา ราตรีสวัสดิ์ไทยแลนด์ ฝันดี ฝันถึงจูนนะค๊า (@@^__^@@)

 
At Mon Oct 31, 06:51:00 AM 2005 , Blogger ShiNy JuNe said...

เงียบจริงๆ เลย หายไปไหนกันหมดน๊า...... ฮื้ออ

 
At Mon Oct 31, 07:06:00 AM 2005 , Anonymous Anonymous said...

ยังอยู่นี่ ไม่ได้ไปไหน เพียงแต่ช่วงนี้เสียงแหบ เลยไม่ค่อยได้ comment

 
At Mon Oct 31, 07:17:00 AM 2005 , Anonymous Anonymous said...

เอ่อ แบบว่า ละครเมืองไทยก็มีคล้ายๆงี้อ่ะครับ แต่ว่าพระเอกที่เป็นหมอจะต้องปลอมตัวเป็นพ่อค้าขายซาละเปา แต่ต้องไปปิ๊งกับลูกสาวของยายก่อน ซึ่งเป็นสตรีสูงศักดิ์ พอสุดท้ายรู้ความจริงเข้าว่ายายกำลังเลี้ยงลูกของตัวเองอยู่ ก็จะทดสอบนางเอกก่อน แล้วท้ายที่สุดก็เปิดเผยตัวว่าเป็น พันตำรวจเอก นายแพทย์ สมิง สหะสิงห์สวัสดิ์ (นามสมมติ) อะไรประมาณเนี้ยครับ

แบบว่าของพี่ไทยต้องใช้จินตนาการนิดนึง

 
At Mon Oct 31, 07:24:00 AM 2005 , Blogger ShiNy JuNe said...

5555 คิดได้ไงเนี่ยยยยย ตลกจริงๆเลยค่ะ

 
At Mon Oct 31, 07:29:00 AM 2005 , Blogger ShiNy JuNe said...

สงสัยเป็นประสบการณ์ตรงที่ comentator พ.ต.อ สมิงศักดิ์ ปลอมตัว มาเองงงงงง ว่างั้นมัยคะ ท่านผู้ชม

 

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home