September 28, 2005

..เปลวเทียน..

วันนี้ serious ก็เพราะเรื่องราวที่อยากเขียนค่อนข้างหนักและมีสาระ ตัดสินใจอยู่หลายวันทีเดียวว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีรึเปล่า ยังไงก็ตาม..ได้ตัดสินใจเขียน และขออนุญาตินำมาเล่าเพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับผู้อื่นและไม่เกิดกับใครอีก เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาจูนได้ทราบข่าวจากเพื่อนสมัยสตรีวิทย์ว่า คุณพ่อของเพื่อนคนนึงเสีย ซึ่งท่านยังอายุไม่มาก ประมาณไม่เกินห้าสิบนิดๆ แน่ สาเหตุคือท่านลื่นหกล้มในห้องน้ำ และไม่มีใครรู้ ค่อนข้างนานกว่าจะมีใครมาพบ และประตูห้องน้ำถูกล็อก ทำให้คนภายนอกไม่สามารถเปิดเข้าไปได้ ต้องพังประตูเข้าไป เมื่อจูนได้ทราบข่าวนี้ ก็ทำให้พูดไม่ออกไปสักพักทีเดียว วันต่อๆมา ก็ได้พยายามโทรไปหาเพื่อนคนนั้น แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ อาจด้วยเพราะเวลาที่ต่างกันระหว่างอเมริกากับไทย ทำให้จังหวะว่างพอดีกันได้ยาก อย่างไรก็ตามขอฝากผ่านเวบนี้ว่า..จูนขอเป็นกำลังใจให้ในทุกอย่าง ขอให้เพื่อนเข้มแข็งและผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ แล้วจะพยายามโทรไปอีก เป็นห่วงนะ.. เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายถึงความรู้สึก ก่อนหน้านี้..เวลาที่ขึ้นวอร์ดทำคนไข้ ก็จะพบคนไข้กลุ่มนึงทีเดียว ที่ได้รับอุบัติเหตุในทำนองเดียวกันนี้ แต่ไม่เสียชีวิต กลับกลายเป็นอัมพาตแทน การหกล้มในผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง บางครั้งเราก็ไม่นึกระวังจนกว่าจะได้ทราบเรื่องราวของใครสักคน ก่อนหน้านี้.. จูน จะค่อนข้างเป็นห่วงพ่อกับแม่เรื่องนี้มาตลอด เนื่องจากพ่อกับแม่มีอายุมากแล้ว และเรามีความฝันว่าสักวันเราจะไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน ห้องน้ำที่บ้าน สำหรับพ่อ..จูนจะไม่เคยยอมให้ล็อกกลอนเด็ดขาด ต้องเอาผ้ามาผูกไว้ที่หูจับประตู แล้วใช้วีธีงับผ้าเอาไว้ตลอดมา ตอนนี้เลยต้องมาขอร้องแกมบังคับกับแม่อีกเหมือนกัน นอกจากนี้เรื่องของอ่างอาบน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่าง เพราะเป็นอะไรที่ลื่นหกล้มได้ง่ายมาก และแน่นอน เปอร์เซนต์เสี่ยงของการลื่นล้มศรีษะฟาดก็ต้องสูงตามมา อาการก็ย่อมต้องแล้วแต่สาเหตุและความรุนแรงแน่นอน.. มีเส้นเลือดแตกหรือไม่ เส้นเลือดนั้นเป็นเส้นสำคัญแค่ไหน ทำให้สมองส่วนใดขาดออกซิเจนหรือเปล่า และขาดออกซิเจนเป็นเวลานานแค่ไหน.. นั่นจึงแล้วแต่ว่าผู้ป่วยจะถึงกับชีวิตหรืออาจรอดมาแต่เป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ .. จริงอยู่ที่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ถ้าเราเลือกที่จะ "ป้องกัน" ก็ย่อมลดอัตราเสี่ยงของการเกิดไม่ใช่หรือ การเสียค่าใช้จ่ายนั้นเป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง แต่..การสูญเสียทางใจ..ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า และยากที่จะเยียวยาให้หายได้ บางครั้งเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้เลือกเกิดเฉพาะกับผู้สูงอายุเท่านั้น เช่นกรณีของคุณพ่อเพื่อนท่านนี้เป็นต้น วิธีการป้องกันย่อมต้องมีหลายวิธี การดูแลรักษาความสะอาดห้องน้ำไม่ให้ลื่นและแห้งอยู่เสมอ, การหาแผ่นยางมารองกันลื่นซึ่งมีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป สำหรับประตูที่เป็นลูกบิดก็อย่าลืมเก็บลูกกุญแจให้ดีอาจมีประโยชน์ในยามฉุกเฉินเช่นนี้ กรณีประตูมีกลอนอาจลองใช้วีธีแบบที่บ้านจูน ตอนแรกอาจดูขัดเขิน แต่วันหนึ่งมันอาจมีคุณค่าขึ้นมาหากมันต้องเกิดกับใครใกล้ตัวที่เรารัก.. อีกสิ่งที่เตือนให้ฉุกคิดก็คือ.. วันนี้ทุกคนได้ทำอะไรที่อยากทำหรืออยากพูดให้กับคนที่เรารักหรือยัง โดยเฉพาะผู้ที่ให้ชีวิตแก่เราและรักเราในทุกลมหายใจ ลองสมมติว่าเช้าวันนี้หรือเมื่อวานคุณอาจทำไม่ดีกับท่านเล็กๆน้อยๆ หรือไม่มีเวลาที่จะเข้าไปกอดหรือหอม หรือแม้แต่จะไหว้สวัสดี แล้วถ้าเย็นวันนี้คุณก็อาจไม่มีแม้แต่โอกาส แม้แต่จะพูดคำว่า..ขอโทษ.. คุณคงเสียใจและโกรธตัวเองเป็นที่สุด เย็นวันนี้หรืออาทิตย์นี้..อย่าลืมไปกราบ ไปหอม ไปกอดท่านให้เต็มอิ่ม และทำเวลาที่คุณมีอยู่ให้สวยงามที่สุด เพราะคุณช่างโชคดีเหลือเกินถ้าคุณยังได้เวลานั้นเป็นของคุณอยู่ นั่นหมายถึงคุณยังสามารถกำหนดด้วยตัวเองได้ว่าจะใช้เวลานั้นให้เป็นไปอย่างไร ..หากเรื่องราวในวันนี้ก่อให้เกิดประโยชน์กับใครและครอบครัวใครได้บ้าง ขออุทิศกุศลกรรมที่ดีงามทั้งหมดนี้ให้กับคุณพ่อของเพื่อนท่านนี้ (ซึ่งพึ่งได้ทราบข่าวว่าจะเผาในเย็นวันนี้เช่นกัน) เพื่อจะได้ไม่เกิดกับใครอีกหรือเกิดน้อยที่สุด แล้วคุณล่ะ..จะเลือกให้เทียนเล่มนั้นยังสว่างและสวยงามอยู่ หรือต้องพยายามจุดใหม่อีกครั้งเมื่อไส้เทียนนั้น..อาจได้ขาดไปแล้ว.. ด้วยรัก.จากจูน